ชวันรัตน์ นาเมืองรักษ์206
หน้าเว็บ
หน้าแรก
ครูชาญวิทย์
เสลภมู่พิทยาคม
Quipper School
รายวิชา ประวัติศาศาสตร์ รหัสวิชา ส22102 คุณครูผู้สอน ครูชาญวิทย์ ปรีชาพาณิชพัฒนา โรงเรียนเสลภูมิพิทยาคม อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด
วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
ประวัติศาสตร์
เป็นการศึกษาเรื่องราวหรือเหตุการณ์ในอดีตของมนุษย์ทุกด้านทั้งด้านความคิด การประดิษฐ์ ความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ความขัดแย้ง ความร่วมมือ ความเสื่อม รวมทั้งการเปลี่ยนแปลง ซึ่งนับตั้งแต่มนุษย์ในยุคแรกตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์โดยนับเวลาถอยหลังย้อนไปกว่า 3 ล้านปี จนกระทั่งมนุษย์ได้เริ่มเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์เมื่อประมาณ 5,000 ปีที่ผ่านมา โดยมีมิติของช่วงเวลา และหลักฐานของประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งนำวิธีการทางประวัติศาสตร์มาช่วยในการศึกษาประวัติศาสตร์
เพื่อความสะดวกในการศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ มีการแบ่งยุคทางประวัติศาสตร์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และทำให้การศึกษาประวัติศาสตร์มีความน่าเชื่อถือ สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ต่
ประวัติความเป็นมาของชนชาติไทย
การศึกษาเรื่องถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย ได้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 100 ปีเศษมาแล้ว โดยนักวิชาการชาวตะวันตก ต่อมาได้มีนักวิชาการสาขาต่างๆ ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศได้ศึกษาค้นคว้าต่อมาเป็นลำดับจนถึงปัจจุบัน การศึกษาค้นคว้าได้อาศัยหลักฐานต่างๆ เช่น โครงกระดูกมนุษย์ เครื่องมือเครื่องใช้ เอกสารโบราณจีน หลักฐานทางภาษาและวัฒนธรรมท้องถิ่น ผลจากการค้นคว้าปรากฏว่านักวิชาการและผู้สนใจเรื่องถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยต่างเสนอแนวคิดไว้หลายอย่าง แต่ยังไม่มีแนวคิดใดเป็นที่ยอมรับกันในปัจจุบัน ในระยะแรกๆ นักวิชาการส่วนใหญ่เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในดินแดนประเทศจีน ต่อมาได้อพยพย้ายถิ่นกระจายออกไป และได้เสนอแนวความคิดเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย ดังนี้
แนวคิดที่ 1 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนแถบเทือกเขาอัลไต
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
ถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีน บริเวณเทือกเขา
อัลไต
1. ดร.วิลเลียม
คลิฟตัน ดอดด์ : Dr.william Clifton Dodd มิชชันนารี ชาวอเมริกันได้เข้ามายังเมืองไทยในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้วได้เดินทางไปยังประเทศจีน
เชื่อกันว่าพวกมุงเป็นบรรพบุรุษของไทยมีเชื้อสายมองโกล เป็นชาติที่เก่าแกกว่าชาวฮีบรู และจีน เป็นเจ้าของถิ่นเดิมของจีนมาก่อนตั้งแต่ประมาณปีที่ 1657 ก่อนพุทธศักราช ต่อมาได้อพยพจากบริเวณเทือกเขาอัลไต มายังด้านตะวันตกของจีน แล้วถอยร่นลงมายังบริเวณตอนกลางของจีนมาสู่ตอนใต้ของจีนจนในที่สุดได้มีคนไทยอพยพสู่คาบสมุทรอินโดจีน
ได้เขียนหนังสือชื่อว่า
The Thai Race-The Elder Brother of the Chinese หลวงแพทย์นิติสรรค์ แปลงเป็นไทยให้ชื่อว่า “ชนชาติไทย”
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
2. ขุนวิจิตรมาตรา
ที่มาภาพ http://www.numtan.com/story_2/picupreply/98-2-1081679827.jpg
ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่บริเวณเทือกเขา อัลไต ได้อพยพลงมาตั้งอาณาจักรนครลุงเป็นครั้งแรก ต่อมาถูกพวกตาดมองโกลยึดครองจึงอพยพมาอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของมณฑลเสฉวนตั้งอาณาจักรใหม่ ชื่อว่า “ปา” คนไทยเรียกว่า “อ้ายลาว” หรือ “มุง” ต่อมานครปาเสียแก่จีน จึงมาตั้งนครเงี้ยว “ที่ลุ่มแม่น้ำแองซี ถูกจีนรุนหลายครั้ง ในที่สุดชนชาติไทยได้อพยพมาตั้งถิ่นฐานในดินแดนสุวรรณภูมิ2
ได้เขียนหนังสือชื่อ
“หลักไทย”
ข้อสรุปของแนวคิดที่ 1
แนวคิดที่ 1 ไม่เป็นที่ยอมรับของนักประวัติศาสตร์ ในปัจจุบันเนื่องจากมีอุปสรรคในการเดินทางไปตั้งถิ่นฐานของคนไทย และไม่น่าจะอยู่ไกลถึงเทือกเขาอัลไต ที่มีอากาศหนาวเย็นมาก นอกจากนั้นการเดินทางลงมาทางใต้ต้องผ่านทะเลทรายโกบี อันกว้างใหญ่ไพศาล
แนวคิดที่ 2 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนบริเวณมณฑลเสฉวน
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
ถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศบริเวณ
มณฑลเสฉวน
1.แตร์รีออง เด ลา คูเปอรี : Terrien de la Couperie ชาวฝรั่งเป็นศาสตร์ทางภาคศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
คนเชื้อชาติไทยเดิมตั้งถิ่นฐานเป็นอาณาจักรโบราณบริเวณตอนกลางของจีนแถบมณฑลเสฉวนประมาณ
ปีที่ 1765 ก่อนพุทธศักราช จีนเรียกชนชาติไทยว่า “มุง” หรือ “ต้ามุง”
ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับชนชาติไทย โดยอาศัยหลักฐานบันทึกของจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เสนอแนวคิดไว้ในงานเขียน 2 ชิ้น คือ
1. The Cradle of The Siam
Race
2. The Languages of
China Before The
Chinese
2. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรม-พระยา ดำรงราชานุ-ภาพ
ที่มาภาพ
www.lib.ru.ac.th/journal/damrong.html
ชนชาติไทย แต่เดิมตั้งบ้านเรื่องอยู่ระหว่างประเทศทิเบตกับจีนประมาณปี พ.ศ.500 ถูกจีนรุนราน จึงอพยพถอยร่นมาทางตอนใต้ของจีน และแยกย้ายเข้าไปทางทิศตะวันตกของ
ยูนนานได้แก่ สิบสองจุไทย ล้านนา
ล้านช้างอยู่ทางตอนกลางของยูนนาน
ได้ทรงแสดงแนวทรรศนะไว้ในพระนิพนธ์ ชื่อ “แสดงบรรยายพงศาวดารสยามและลักษณะการปกครองประเทศสยามแต่โบราณ2
แนวคิดที่ 2 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนบริเวณมณฑลเสฉวน
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
3. หลวงวิจิตรวาท-การ
คนไทยเคยอยู่ในดินแดนซึ่งเป็นมณฑลเสฉวน หูเป่ย์ อานฮุย และเจียงซี ในตอนกลางของประเทศจีนแล้วได้อพยพมาสู่มณฑลยูนานและแหลมอินโดจีน
ได้เรียบเรียงหนังสือ ชื่อว่า “งานค้นคว้าเรื่องชนชาติไทย”
4. พระบริหารเทพ-ธานี
ถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศจีน แล้วถอนร่นมายังบริเวณมณฑลยูนาน และลงมาทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ได้เสนอแนวคิดไว้ในผลงาน “พงศาวดารไทย”
ข้อสรุปของแนวคิดที่ 2
ระยะต่อมามีนักวิชาการได้ศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง เกี่ยวกับวัฒนธรรมทางภาษาลักษณะเผ่าพันธุ์ จากหลักฐานประเภทจดหมายเหตุจีน กล่าวถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวไม่น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคนไทย ที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันมากนัก ดังนั้นแนวคิดนี้จึงไม่เป็นที่ยอมรับของนักวิชาการ
แผนที่แสดงแนวคิดถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในบริเวณตอนกลางของจีน
ที่มาภาพ นางพีรทิพย์ สุคันธเมศวร์
แนวคิดที่ 3 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนเหนือของประเทศจีนบริเวณมณฑลเสฉวน
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
ถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ทางตอนใต้ของประเทศจีน
1. อาร์ชิบัลด์ รอสส์ คอลูน : Archibald Ross Colquhoun นักสำรวจชาวอังกฤษเดินทางสำรวจ โยเริ่มจากกวางตุ้งของจีนถึงเมืองมัณฑะเลย์ ในสหภาพพม่าและรัฐอัสสัมในสาธารณรัฐอินเดีย
พบกลุ่มชนชาติไทยอาศัยอยู่บริเวณตอนใต้ของจีน มีภาษาพูดและความเป็นอยู่คล้ายคลึงกันในบริเวณที่ได้เดินทางสำรวจ
ได้เสนอแนวคิดในบทความเรื่อง Across Chryse
2. อี.เอช.ปาร์เกอร์ : E.H.Parker เป็นชาวอังกฤษเคยเป็นกงสุลอังกฤษประจำเกาะไหหล่ำ
ในพุทธศตวรรษที่ 13 ชนชาติไทยได้ตั้งอาณาจักรน่าเจ้าที่มณฑลยูนนาน ต่อมาลูกจีนรุกรานถอยร่นลงมาทางตอนใต้ของจีน
ได้เขียนบทความเรื่อง
The old Thai Mmpire
ในปี พ.ศ.2437 โดยใช้ตำนานของจีนตีความหลักฐานทางประวัติศาสตร์
3. ศาสตราจารย์โวลแฟรม อีเบอร์ฮาร์ด :Wolfram Eberhard
นักสังคมวิทยาและนักมานุษยวิทยาชาวเยอรมันได้ศึกษาเรื่องชนเผ่าไทยเมื่อปี พ.ศ.2491
ชนเผ่าไทยอยู่ในบริเวณมณฑลและดินแดนในอ่าวตังเกี๋ย แล้วได้สร้างอาณาจักรเทียนที่มณฑลยูนนาน ซึ่งตรงกับสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน ต่อมาสมัยราชวงศ์ถังของจีนชนเผ่าไทยได้สถาปนาอาณาจักรน่านเจ้า มณฑล
ยูนนาน
ได้เสนอแนวคิดไว้ในหนังสือชื่อ A History of china
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
4. เฟรเดอริค โมตะ : Ferderick Mote นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกันผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์จีน ได้ศึกษาเอกสารสำคัญเกี่ยวกับสมัยน่านเจ้าโบราณ
พวกที่ปกครองน่านเจ้าคือพวกไป๋ และพวกยี๋ คนไทยที่น่านเจ้าเป็นชนกลุ่มน้อยกลุ่มหนึ่ง แต่มิได้อยู่ในชนชั้นปกครอง
ได้ให้ทัศนะไว้ในบทความชื่อ Problems of Thai Prehistory : ปัญหาก่อนประวัติศาสตร์ไทย
5. จิตร ภูมิศักดิ์ มีผลงานศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย
คนไทยอาศัยกระจัดกระจายบริเวณทางตอนใต้ของจีนและบริเวณภาคเหนือของไทย ลาว เขมร พม่า และรัฐอัสสัมของอินเดีย
ได้เสนอแนวคิดไว้ในงานเขียนชื่อ 1.ความเป็นมาของคำสยามไทย ลาว และขอม 2.ลักษณะทางสังคมและยึดชนชั้น
6. ขจร สุขพานิช
นักประวัติศาสตร์ไทยที่สนใจศึกษาค้นคว้าความเป็นมาของชนชาติไทย
ถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณทางตอนใต้ของจีนแถบมณฑลกวางตุ้งและกวางสี ต่อมาได้อพยพลงมาทางตะวันตก ตั้งแต่ยูนนานและลงมาทางตอนใต้ผ่านผ่านเขตสิบสองจูไทยลงมาที่ประเทศลาว
ได้เสนอแนวความคิดในเรื่อง “ถิ่นกำเนิดและแนวอพยพของเผ่าไทย”
7. พระยาประชากิจกรจักร
(แช่ม บุนนาค)
ถิ่นกำเนิดเดิมของชนชาติไทยอยู่ทางตอนใต้ของจีน
ได้ค้นคว้าจากเอกสารทั้งไทยและต่างประเทศ เมื่อประมาณปี พ.ศ.2441 ได้เรียบเรียงลงในหนังสือ
วชิรญาณ เรื่องพงศาวดารโยนก
ข้อสรุปของแนวคิดที่ 3
แนวคิดที่ 3 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของคนไทยอยู่กระจัดกระจายทั่วไป ในบริเวณทางตอนใต้ของจีนและทางตอนเหนือของภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตลอดบริเวณรัฐอัสสัมของอินเดีย
แนวคิดที่
4 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณดินแดนประเทศไทย
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
ถิ่นกำเนิดของ
ชนชาติไทยอยู่บริเวณดินแดนประเทศไทย
1. พอล เบเนดิกต์
(Paul Benedict) นักวิชาการชาวสหรัฐอเมริกา
ชนชาติไทยน่าจะอยู่ในดินแดนประเทศไทยปัจจุบันในราว 4,000 – 3,000 ปีมาแล้ว จากนั้นมีพวกตระกูลมอญ เขมร อพยพมาจากอินเดียเข้าสู่แหลมอินโดจีนได้ผลักดันให้คนไทยกระจัดกระจายไปหลายทาง โดยกลุ่มหนึ่งอพยพไปทางตอนใต้ของจีนในปัจจุบัน ต่อมาถูกจีนผลักดันจึงถอยร่นลงไปอยู่ในเขตอัสสัม ฉาน ลาว ไทย ตังเกี๋ย ดังนั้นจึงมีกลุ่มชนที่พูดภาษาไทยกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
ค้นคว้าโดยอาศัยหลักฐานทางภาษาศาสตร์ โดยเชื่อว่า ผู้คนที่อยู่บริเวณคาบสมุทรอินโดจีนย่อมมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน โดยยอมรับว่าภาษาไทยเป็นภาษาที่ใหญ่ ภาษาหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2. ศาสตราจารย์นายแพทย์สุด
แสงวิเชียร ผู้เชี่ยวชาญด้าน
กายวิภาคศาสตร์
ดินแดนประเทศไทยน่าจะเป็นที่อยู่ของบรรพบุรุษคนไทยมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์
หนังสือเรื่อง “ก่อนประวัติศาสตร์ของประเทศไทย” โดยศึกษาเปรียบเทียบโครงกระดูกของมนุษย์ยุคหินใหม่จำนวน 37 โครงที่คณะสำรวจไทย – เดนมาร์ก ขุดพบบริเวณแม่น้ำแคว ในจังหวัดกาญจนบุรี ผลการศึกษาพบว่า โครงกระดูกมนุษย์ของ ยุคหินใหม่ มีลักษณะเหมือนโครงกระดูกของ คนไทยในปัจจุบัน
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
3. ศาตราจารย์ชิน อยู่ดี ผู้เชี่ยวชาญ ทางโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
พื้นที่ซึ่งเป็นดินแดนประเทศไทยในปัจจุบันมีร่องรอยของผู้คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่ยุค
หินเก่า ยุคหินกลาง ยุคหินใหม่ ยุคโลหะและเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์ เนื่องจากแต่ละ ยุคได้แสดงความสืบเนื่องทางวัฒนธรรมของคนไทยจนถึงปัจจุบัน เช่น ประเพณีการ ฝังศพ เครื่องใช้เกี่ยวกับการเกษตร
จากการศึกษาทางด้านโบราณคดีโดยเฉพาะ ทางโบราณคดีสมัย ก่อนประวัติศาสตร์
ข้อสรุปของแนวคิดที่ 4
เนื่องจากนักวิชาการกลุ่มนี้ มักอาศัยหลักฐานทางโบราณคดีเป็นหลักในการพิสูจน์แนวคิดของตนเอง ดังนั้นข้อสันนิษฐานของนักวิชาการกลุ่มนี้ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากนักวิชาการในปัจจุบันมากนัก แนวคิดนี้ยังต้องอาศัยการค้นคว้าด้วยวิธีการต่าง ๆ เพื่อหาข้อสรุปต่อไป
แผนที่แสดงแนวคิดถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในประเทศไทย
ที่มาภาพ นางพีรทิพย์ สุคันธเมศวร์
แนวคิดที่
5 เชื่อว่าถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณคาบสมุทรอินโดจีนหรือคาบสมุทรมลายู
และหมู่เกาะต่าง ๆ ในอินโดนีเซีย
แนวคิด
ผู้เสนอแนวคิด
ถิ่นฐานเดิมและการอพยพ
หลักฐานที่ใช้ในการศึกษา
ถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณคาบสมุทร
อินโดจีนหรือคาบสมุทรมลายู และหมู่เกาะต่าง ๆ ในอินโดนีเซีย
นักวิชาการทางการแพทย์โดย นายแพทย์สมศักดิ์ พันธุ์สมบุญ
นายแพทย์ประเวศ
วะสี คณะนักวิจัย ด้านพันธุศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น
จากผลงานการวิจัยทาง พันธุศาสตร์ของนายแพทย์สมศักดิ์ พันธุ์สมบุญ เกี่ยวกับหมู่เลือด ลักษณะและความถี่ของยีน พบว่าหมู่เลือดของ คนไทยมีความคล้ายคลึงกับคนชาวเกาะชวา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้มากกว่าของคนจีนที่อยู่ทางตอนเหนือรวมทั้ง ลักษณะความถี่ของยีนระหว่างคนไทยกับคนจีน
ก็มีความแตกต่างกันและ จากผลงานการวิจัยเรื่องฮีโมโกลบิน อี ของนายแพทย์ประเวศ วะสี พบว่า ฮีโมโกลบิน อี พบมากในผู้คนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือไทย เขมร มอญ ปรากฏว่าฮีโมโกลบิน อี แทบจะไม่มีในหมู่คนจีน
1. ผลงานการวิจัยทาง พันธุศาสตร์ของนายแพทย์สมศักดิ์ พันธุ์สมบุญ เกี่ยวกับหมู่เลือดลักษณะและจำนวนของยีน
2. ผลงานการวิจัยเรื่องฮีโมโกลบิน อี ของนายแพทย์ประเวศ วะสี
ข้อสรุปของแนวคิดที่ 5
ชนชาติไทยน่าจะมีถิ่นกำเนิดอยู่บริเวณคาบสมุทรอินโดจีน หรือคาบสมุทรมลายูและ หมู่เกาะต่าง ๆ ในอินโดนีเซีย แต่แนวคิดนี้ปัจจุบันยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และยังไม่เป็นที่ยอมรับของนักวิชาการที่ค้นคว้าเกี่ยวกับถิ่นกำเนิดของชนชาติไทย
แผนที่แสดงแนวคิดถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยอยู่ในคาบสมุทรมลายูและหมู่เกาะอินโดนีเซีย
ที่มาภาพ นางพีรทิพย์ สุคันธแมศวร์
อเนื่องถึงอนาคต ทำให้มีความพร้อมใ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น